Monday, January 4, 2016

ไทย:สังคมคุณธรรม

ไทย:สังคมคุณธรรม : กมลทิพย์ ใบเงินเรื่อง ศูนย์คุณธรรมฯภาพ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในรอบกว่า 10 ปีที่ผ่านมา สังคมไทยเกิดวิกฤติ “คุณธรรม” อย่างรุนแรง แต่เหตุการณ์เหล่านี้ ไม่รอดพ้นสายตา “ผู้ใหญ่ใจดี” ในบ้านเมืองของเรา ที่เป็นเสาหลักค้ำจุนผดุงคุณธรรม อย่าง “ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย” องคมนตรี “พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์” องคมนตรี, “ศ.ดร.เทียนฉาย กีระนันทน์” ประธานคณะกรรมการศูนย์คุณธรรม(องค์การมหาชน), “นพ.พลเดช ปิ่นประทีป” ที่ปรึกษาคณะกรรมการศูนย์คุณธรรมฯ “สิน สื่อสวน” ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรมฯ ฯลฯ

จากแนวคิดที่ว่า “สังคมคุณธรรมจะเกิดขึ้นจริงได้ ต้องทำในระดับพื้นที่” จนเกิดเป็นรูปธรรม เดินหน้าสังคมคุณธรรม มาอย่างต่อเนื่องด้วยการนำร่อง “จังหวัดคุณธรรมนำร่อง” ประกอบด้วย “พิจิตร ราชบุรี บุรีรัมย์ และพัทลุง” ซึ่ง “ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน)” เป็นผู้ให้การสนับสนุนในด้านองค์ความรู้ การประสานงาน ส่งเสริมเชื่อมประสานการดำเนินงานด้านอื่นๆ นับจากเริ่มขับเคลื่อนเมื่อปลายปี 2557 กระทั่งปัจจุบัน รวมเวลากว่า 1 ปี หากเปรียบเป็นการเพาะปลูก ต้นไม้ทั้งสี่ก็ได้หยั่งรากลง พร้อมผลิใบเตรียมตัวที่จะออกดอกออกผลภายในอีกไม่เกิน 2 ปีข้างหน้า

“พิจิตร” จังหวัดที่มีปัญหาเยาวชน เช่น ยาเสพติด ท้องวัยเรียน ที่ติดเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ได้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ภายใต้การขับเคลื่อน ซึ่งหัวแรงใหญ่ในการขับเคลื่อน “สังคมคุณธรรม” มาจากผู้ใหญ่ใจดี่ “ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย” องคมนตรี ผู้น้อมนำ "หลักสูตรโรงเรียนคุณธรรม" มาดัดแปลงให้เข้ากับหลักการง่ายๆ เริ่มที่ “โรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาลัย” โรงเรียนนอกสายของพ่อแม่ผู้ปกครอง ได้ขยับขึ้นมาเป็น “โรงเรียนระดับหัวแถวทั้งด้านพฤติกรรมและการศึกษา” ด้วยแนวคิด “ปัญหาที่อยากแก้ ความดีที่อยากทำ” จากนั้นนำไปสู่เครือข่ายโรงพยาบาลคุณธรรม เครือข่ายเกษตร เครือข่าย อปท. เครือข่ายเด็กและเยาวชน เครือข่ายผู้สูงอายุ ที่พร้อมจะนำ จ.พิจิตร เป็น “เมืองแห่งความสุข”

“บุรีรัมย์” ใช้หลักธรรมนูญ 9 ดี โดยใช้แนวคิด “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ลงไปทั่วทุกหมู่บ้าน ด้วยการนำของ “พ่อเมือง” ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ชูแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี “จังหวัดบุรีรัมย์” จะเป็น “เมืองคุณธรรม” ส่วน “พัทลุง” รณรงค์ให้เกิด “คุณธรรม” ในชีิวิตประจำวัน เช่น เรื่องวินัยในกฎจราจร และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องขยะให้ช่วยกันลดขยะเพื่อให้เกิด “เมืองพัทลุงเป็นเมืองบายใจ” *ปิดท้ายด้วย “ราชบุรี” ใช้ยุทธศาสตร์ขยายภาคีในจังหวัด ควบคู่กับการจัดกิจกรรม “ตลาดนัดความดี” มีการหมุนเวียนการจัดกิจกรรม “ตลาดนัดความดี” ไปในแต่ละอำเภอ เพื่อสร้างกระแส “จังหวัดคุณธรรม” และการมี “ส่วนร่วม” ในทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อจะเป็น “เมืองแห่งความจงรักภักดีบนวิถีแห่งความพอเพียง”

กว่า 1 ปีของการขับเคลื่อน “สังคมคุณธรรม” เรียกได้ว่าแต่ละพื้นที่ ต่างได้ทำงานขับเคลื่อน ด้วยเป้าหมายให้จังหวัดของตน “อยู่ดี มีสุข ปลอดภัย และสวยงามในแบบฉบับของตนเอง” และได้เกิดกระแสความตื่นตัวในวงกว้าง มีหลายจังหวัดที่สนใจเข้าร่วม อาทิ น่าน ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ อ่างทอง สุพรรณบุรี ตรัง ภูเก็ต

ว่ากันว่า การขับเคลื่อนสังคมคุณธรรม ถักทอสายใยความห่วงใยสังคมไทย ที่มีความเชื่อมโยงมาจาก “สมัชชาคุณธรรม” จากเครือข่ายที่เข้มแข็ง ทรงพลังแต่ละพื้นที่ผนวกเข้ากับนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัด ได้สร้างกลไกที่สอดประสานภาคประชาชนในการขับเคลื่อน

“ศูนย์คุณธรรมฯใช้ 2 พลังหรือ2 มิติ หรือ 2 ขา ในการขับเคลื่อนสังคมคุณธรรม พลังแรกมาจากนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนพลังที่สองมาจากพลังสังคมทุกภาคส่วนที่มีแกนนำในการขับเคลื่อนสังคมคุณธรรม แม้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้ว่าราชการจังหวัด แต่แกนนำภาคประชาชนจะเดินหน้าขับเคลื่อนเชื่อมโยงกับผู้ว่าฯ คนใหม่ได้ทันที ซึ่งในการขับเคลื่อนสังคมคุณธรรมนั้น ทั้งในระดับองค์กร ในระดับหน่วยงาน ในระดับพื้นที่จะต้องยึดแผนความซื่อตรง" สิน สื่อสวน ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กล่าว *ด้วยกระแสตอบรับที่ดีต่อ “สังคมคุณธรรม” นั้น “สิน” เผยว่า ศูนย์คุณธรรมฯ มีข้อจำกัดในการส่งเสริมสนับสนุนเงินงบประมาณในการดำเนินการจังหวัดนำร่องคุณธรรม แม้จากการสำรวจพบว่ามีการตื่นตัวทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน เรียกร้องคุณธรรมคืนสู่สังคมไทย ดูจากผลสำรวจหลังจากมีการนำร่องจังหวัดคุณธรรม ปรากฏว่ามี 25 จังหวัดเสนอขอเข้าร่วมจังหวัดคุณธรรม นับเป็นนิมิตหมายที่ดีในการฟื้นฟูคุณธรรมให้กลับคืนสู่สังคมไทย

“ในปี 2559 ศูนย์คุณธรรมประกาศเดินหน้าสังคมคุณธรรมต่อไป พร้อมตอบสนองความต้องการจังหวัดคุณธรรมที่อยากเข้าร่วม และน่ายินดีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดและภาคประชาชน จะเข้าร่วมจังหวัดคุณธรรมมีสถาบันพระปกเกล้าเข้ามาเป็นแกนนำ ชูยุทธศาสตร์ภายใน 5 ปี ร้อยเอ็ดจะเป็นจังหวัดโปร่งใสมีแผนวินัยและแผนคุณธรรมชัดเจน” สิน ระบุ *ฟ้าหลังฝนมักสวยงามเสมอ ความหวังที่บ้านเมืองของเราจะเกิด “สังคมคุณธรรม” เมื่อทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่มีเล่นพรคเล่นพวก ฯลฯ เหล่านี้คงไม่ไกลเกินเอื้อม เพียงขอให้คนไทยทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกัน เพื่ออนาคตลูกหลานของไทยจะได้อยู่เย็นเป็นสุข เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เกื้อกูลกัน เกิดความสงบสุขได้อย่างแท้จริง เน้อ!!

วันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2559

ขอบคุณแหล่งข้อมูล: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

คำสำคัญ: , คมชัดลึก

No comments:

Post a Comment