โรงเรียนวัดอรัญญิก สพป.พล.1สอนนักเรียนรำไทยแก้ไขปัญหาพฤติกรรม

โรงเรียนวัดอรัญญิก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 ได้จัดกิจกรรมรำไทยหน้าเสาธงหลังจากเข้าแถวเคารพธงชาติ สวดมนต์ไหว้พระเรียบร้อยแล้ว โดยนักเรียนทั้งหมดตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รวมทั้งหมด 300 คน ร่วมกิจกรรมพร้อมกัน
นายวุฒิ ปัญญาบุญ ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า กิจกรรมหน้าเสาธงเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมวงล้อเด็กดี ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 ดำเนินการขึ้น เพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ความเป็นชาติไทย และวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เริ่มตั้งแต่เมื่อนักเรียนก้าวเท้าเข้าสู่รั้วโรงเรียน จนถึงเลิกเรียน เช่น การทักทายด้วยการไหว้ การเดินแถว กิจกรรมหน้าเสาธง ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ต้องอาศัยการฝึกฝนเป็นประจำ ทำซ้ำๆ จนกลายเป็นวิถีชีวิต
โดยเฉพาะกิจกรรมหน้าเสาธง นอกจากมีการเคารพธงชาติ ไหว้พระสวดมนต์ แล้วยังมีกิจกรรมอื่น อาทิ การไหว้ครูมวยไทย การสอนปันจะสีละ การรำไทย หมุนสับเปลี่ยนกันไป โดยการรำไทย จะจัดให้มีขึ้นในทุกวันอังคาร ซึ่งจะมีครูนาฏศิลป์และครูที่มีความสามารถด้านการรำวงมาตรฐาน มาเป็นต้นแบบให้กับนักเรียน ได้หัดรำไทย ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ซึ่งนักเรียนจะได้เรียนการรำท่าต่างๆ เช่น สอดสร้อยมาลา ชักแป้งผัดหน้า รำยั่ว รำส่าย ซึ่งสร้างความสนุกสนานให้กับนักเรียน เกิดความรักและภาคภูมิใจในศิลปของไทย
อีกทั้งยังเป็นการปรับพฤติกรรมของนักเรียนได้อย่างดี ที่เห็นผลได้ชัดเจนก็คือ พฤติกรรมเด็กจะใจเย็นลง ไม่รุนแรง ไม่เล่นแรง ๆ ไม่ซุกซนเกินกว่าที่จะเป็น เด็กเคยก้าวร้าวก็จะลดลงมาก รู้จักยับยั้งชั่งใจ ที่สำคัญคือครูและเด็กนักเรียนมีความสุข ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม นายวุฒิกล่าวท้ายสุด
สพม.34 ประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การแนะแนวการศึกษาขั้นพื้นฐาน

วันที่ 21 มิถุนายน 2559 เวลา 09.00 น. ดร.สิทธิชัย มูลเขียน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 34 ประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การแนะแนวการศึกษาขั้น พื้นฐาน ให้แก่ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 34 ผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 15 คน ณ โรงแรมฮอลิเดย์ การ์เดน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ดร.สิทธิชัย มูลเขียน กล่าว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เรื่อง การเตรียมความพร้อม แก่กำลังแรงงานก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยให้กระทรวงแรงงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานต่างๆ ที่จัดให้มีการศึกษาในระดับมัธยมศึกษา ดำเนินการให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษา ตอนปลายทุกคนได้รับการแนะแนวการศึกษาและอาชีพก่อนสำเร็จการศึกษาตามกระบวน การแนะแนวครบถ้วนทุกขั้นตอน และกำหนดให้การแนะแนวการศึกษาและอาชีพแก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นเป้าหมายและตัวชี้วัดผลงานดำเนินงานประจำปีของสถาน ศึกษา เพื่อนำนโยบายสู่การปฏิบัติโดยผ่านกลไกเครือข่ายแกนนำทางการแนะแนวระดับเขต พื้นที่การศึกษาที่เป็นศูนย์แนะแนวประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 225 เขต ให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนางานแนะแนวทั้งระบบและครูแนะแนวสามารถ ใช้กระบวนการแนะแนวครบทุกขั้นตอน รวมทั้งทักษะปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือทางการแนะแนวเพื่อขยายผลการ ดำเนินงานให้กับสถานศึกษาอื่นๆ ในพื้นที่ต่อไป
เพื่อให้การขับเคลื่อนกระบวนการแนะแนวของศูนย์แนะแนวสำนักงานเขตพื้นที่การ ศึกษามัธยมศึกษา เขต 34 และสถานศึกษาในสังกัด เป็นไปอย่างมีระบบและครบถ้วนทุกขั้นตอนตามนโยบาย
จึงขอให้คณะกรรมการดำเนินการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การแนะแนวการศึกษาขั้นพื้น ฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๓๔ ให้เป็นด้วยความเรียบร้อย
สพป.สุพรรณบุรี เขต 3 รับการติดตามผลการขับเคลื่อน ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้

20 มิ.ย.59 คณะกรรมการติดตามผลการดำเนินงานการขับเคลื่อนนโยบาย "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" (Moderate Class More Knowledge) ระยะที่ 2 ครั้งที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ของกลุ่มโรงเรียนเป้าหมาย 50% ประกอบด้วย คุณประเสริฐ ศิลปะ ข้าราชการบำนาญ (ผอ.เชี่ยวชาญ) ดร.สามารถ รัตนสาคร สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ และคุณสดใน นิยมจันทร์ สำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา โดยมี
- นายวิทยา ยางสุด นายชรินทร์ นุ่มแสง รอง ผอ.สพป.สุพรรณบุรี เขต 3 พร้อมคณะให้การต้อนรับ
- นายวิทยา ยางสุด กล่าวคำต้อนรับพร้อมทั้งแนะนำบุคลากรที่ให้การต้อนรับ
- นายชรินทร์ นุ่มแสง ดำเนินการรายงานการดำเนินงานลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ของ สำนักงานเขตฯ โดยใช้ PDCA ในการขับเคลื่อนนโยบาย ดังกล่าว เพื่อพัฒนาองค์รวม 4 h
- น.ส.สัทธา สืบดา ศน.ผู้แทนทีมสมาร์ทเทรนเนอร์ เล่าถึงการดำเนินงานโดยดึง สหวิทยาเขตต่างๆ ในเขตพื้นที่มามีส่วนร่วมในการติดตามการดำเนินงานฯ และต่อไปจะมีให้ทุกโรงเรียนมี Best Practice ของแต่ละโรงเรียน
- ดร.ธานี อำภาวงษ์ ผอ.รร.อนุบาลเดิมบางนางบวช กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้ส่งเสริมกิจกรรมฟุตบอลเพื่อปูพื้นฐาน และจะผลักดันให้ถึงระดับประเทศ และส่งเสริมกิจกรรมมากมาย เช่น ว่าวไทย ขนมไทย ไอศกรีมไรซ์เบอรี่(โบราณ) กล่องเดคูพาส ดอกไม้ประดิษฐ์จากกระถิน ดนตรีไทย และแกะสลัก
- นายธีรยุทธ์ ลิ้มรัตนปัญญา ผอ.รร.บ้านแหลมสะแก รร.คู่ขนาน กล่าวว่า รร.มีนักเรียนน้อย งบประมาณจำกัด และบุคลากรน้อย จึงพยายามคิดการทำกิจกรรมลดเวลาเรียนฯ ที่ประหยัด รร.สามารถนำของที่ไม่มีค่า นำมาเพิ่มมูลค่าเพิ่มได้ ดึงศิษย์เก่าของ รร.ที่ไปเรียนนาฏศิลป์มาช่วยสอนรำวงมาตรฐาน วิทยากรภายนอกมาสอนดนตรี (ทุกวันจันทร์) อังกะลุง ซอ ระนาด ปราชญ์ชาวบ้านมาให้ความรู้ อัตราจ้างจากงบท้องถิ่นและชุมชนร่วมระดมทุนจ้างมาสอนนักเรียน ขอครูฝึกสอนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ(บ้านอยู่ในชุมชน) เน้นจัดตารางเรียนให้สมดุล 2 ภาคเรียน โดยภาคเรียนที่ 1 เน้นปูพื้นฐาน ภาคเรียนที่ 2 เน้นสาระวิชา และ o-net วันจันทร์ เรียนดนตรี วันอังคาร เรียนภาษาอังกฤษ(วิทยากร : เน้นการสนทนา จัดเป็นช่วงชั้น อนุบาล และ ป.1-6 ผลการสอน o-net ภาษาอังกฤษ ค่าเฉลี่ยสูงกว่าระดับชาติ วันพุธ ลูกเสือ เน้นสอนคุณลักษณะของเด็ก นันทนาการ เน้นปูพื้นฐานรำวงมาตรฐาน รุ่นพี่สอนรุ่นน้อง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ วันพฤหัสบดี พละ สมรรถภาพ การกีฬา มีเปตอง ตะกร้อ วันศุกร์ กิจกรรมห้องสมุด ภาษาไทย เรียงความ งานประดิษฐ์ นำเศษวัสดุมาเพิ่มมูลค่า กิจกรรมพอเพียง เลี้ยงกบ ปลา เพื่อเป็นสื่อสอนเด็กให้เรียนรู้ตั้งแต่เริ่มต้น และบูรณาการให้เด็กเรียนรู้คณิตศาสตร์ไปในตัว นอกจากนี้ รร.ตั้งอยู่ใกล้แหล่งเรียนรู้ คือ บึงฉวาก ทุกเดือนๆ ละ 1 ครั้ง จะพานักเรียนไปเรียนรู้โดยไม่เสียเงิน การจัดกิจกรรมฯ เน้นความต่อเนื่องในการจัดกิจกรรม และดูเด็ก คัดกรองเด็ก LD โดยประสานกับศูนย์ฯ
- นางอารีย์ อุบล ครู รร.วัดบางขวาก กล่าวถึงการจัดกิจกรรมฯ ที่ รร. เน้นกิจกรรมจักสาน ควบคู่ไปกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ชุมชนประกอบอาชีพร้อยพวงมาลัย จึงนำมาจัดกิจกรรมให้นักเรียน นอกจากนี้ ยังมีน้ำยาล้างจาน ไม้กวาด ปลูกพืชผักสวนครัว ไข่เค็ม ดนตรี การจักสานไม้ไผ่ ซึ่งเริ่มจากการไปเยี่ยมบ้านเด็ก เจอคุณลุงคนหนึ่งนั่งสานสุ่มไก่ จึงเชิญคุณลุงมาสอนนักเรียนสานสุ่มไก่ นำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในการจัดกิจกรรมฯ ไปขายที่ตลาดร้อยปี ดนตรีไปเล่นที่ตลาดร้อยปีเช่นกัน ส่วนน้ำยาล้างจาน พืชผักสวนครัว ไข่เค็ม จะนำไปขายที่ตลาดนัดในชุมชน ซึ่งมีทุกวัน ฝึกให้เด็กขาย คิดต้นทุน กำไร และระบบการจัดการ ส่วนกระเป๋าสานสำหรับถือ นำไปขายตลาดร้อยปี ก็จะให้เด็กนักเรียนนั่งสานให้ดู ขายได้ใบละ 700-800 บาท ซึ่งกิจกรรมสานกระเป๋าจากไม่ไผ่ รร.ได้รับเหรียญทองระดับชาติติดต่อกัน 3 ปีซ้อน ในการแข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียน
- คุณประเสริฐ ศิลปะ ประธานคณะกรรมการ ฯ กล่าวว่า ซาบซึ้งในการปฏิบัติของเขตพื้นที่และ รร. เป็นอย่างยิ่ง การมาติดตามครั้งนี้ พบรายงานมากมาย ผลผลิตจาก รร. เป็นรูปธรรม อยากเห็นการจัดกิจกรรมให้อยู่ในวิถีชีวิตประจำวัน ชื่นชมกับการขับเคลื่อนนโยบายฯ ทีมสมาร์ทเทรนเนอร์ และสหวิทยาเขตฯ ติดตามกิจกรรมดังกล่าว จะนำส่วนนี้ไปนำเสนอต่อไป และ ชื่นชมกับ รร.ขนาดเล็ก ที่มีงบประมาณและบุคลากรจำกัด สามารถขับเคลื่อนนโยบายฯได้บนพื้นฐานจำกัด ขอฝากไว้นิด ขอให้ครูให้ความรู้กับเด็ก เช่น นักเรียนทำดอกไม้จากต้นกระถิน ดอกไม้ที่ได้ ชื่อดอกอะไร ทำจากอะไร ใบของดอกไม้เป็นแบบนี้ และคำนวณต้นทุน คำนวณค่าแรง กำไร ราคาขาย คุ้มค่าการลงทุนไหม เพื่อนำไปสุู่อาชีพต่อไป
- ดร.สามารถ รัตนสาคร คณะกรรมการฯ กล่าวว่า ตามที่จัดกิจกรรมฯ รร.ได้สำรวจความต้องการและความสนใจของเด็ก สำรวจความสามารถและความถนัดของครู และนำชุมชน และวิทยากรมาช่วยให้ความรู้กับนักเรียน เป็นที่น่าสนใจและชื่นชม และการจัดกิจกรรมฯ ของ รร.ทำให้ผลการสอบ o-net ภาษาอังกฤษดีขึ้น หาก รร.จัดกิจกรรมฯ เชื่อมโยงไปเสริมกับกลุ่มสาระต่างๆ ผลการเรียนดี ทุกๆ สาระดีขึ้น ก็จะยอดเยี่ยม
- คุณประเสริฐ ศิลปะ ประธานคณะกรรมการ ฯ กล่าวเสริมว่า นโยบาย "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" เกิดจาก เพื่อลดความเครียดของเด็ก อยากเห็นกิจกรรมต่างๆ ไปเสริมกับกลุ่มสาระต่างๆ เช่น ไปพบ รร.หนึ่ง พบครูอยู่หนึ่งคน สอนเด็กปลูกต้นไม้ อยู่ คิดว่าเป็นครูเกษตร สอบถามพบว่าเป็นครูวิทย์ สอนให้เด็กปลูกต้นไม้ ตั้งแต่เริ่มเตรียมดิน จดบันทึกการเติบโตของต้นไม้ นี่เป็นการเชื่อมโยงและบูรณาการของกิจกรรมลดเวลาเรียนฯ อย่างเช่น การจัดสาร ควรให้องค์ความรู้ ให้นักเรียนเกิดเจตนคติที่ดี ไผ่ที่อยู่ในชุมชน สามารถผูกโยงวิชาอะไรได้บ้าง ตระกร้าเป็นรูป สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม รูปทรงแบบไหนแข็งแรงทนทานมากกว่ากัน และควรสอนการบริหารจัดการการขายเชิงการค้าด้วย นักเรียนจะได้เรียนรู้การบริหารจัดการเพื่อไปใช้ในอาชีพต่อไป
- คุณสดใส นิยมจันทร์ คณะกรรมการฯ กล่าวว่า หัวใจหลักของนโยบายฯ นี้ อยากให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้น พัฒนาด้านความคิดและจิตใจ นักเรียนเรียนโดยไม่เครียด ทำให้สมองพัฒนาขึ้น
- ภาคบ่ายไปติดตามการจัดกิจกรรม ฯ ของ รร.บ้านหนองแขม ได้รับการต้อนรับจาก นางสายฝน แตงโสภา ผอ.รร.คณะกรรมการสถานศึกษา ครูและนักเรียน รร.บ้านหนองแขม เป็น รร.ขนาดเล็ก มีนักเรียน 72 คน มีครูประจำการ 3 คน นอกนั้นเป็นอัตราจ้าง มีกิจกรรมมากมาย เช่น พืชผักสวนครัวกางมุ้ง ดนตรี การปั้นดินน้ำมัน ภาพพิศวง การจับจีบโต๊ะ ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นอาชีพได้ การแก้ปัญหาการอ่าน การอ่านเล่าเรื่อง การเล่นของนักเรียน การทำขนมดอกจอก การร้อยมาลัย สหกรณ์รร.
- คณะกรรมการฯ ชื่นชมการจัดกิจกรรมฯ และขอฝากให้บูรณาการ การคิดกำไร ต้นทุน การบริหารจัดการเพื่อไปใช้ในอาชีพ และนำกิจกรรมฯ เสริมให้ผลการเรียนมีประสิทธิภาพขึ้น
21 มิถุนายน 2559
ขอบคุณแหล่งข้อมูล: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
คำสำคัญ: , สพฐ., สพป., เกษตร, ความรู้, พิษณุโลก, โรงเรียน, การศึกษา, รัฐมนตรี, ท้องถิ่น, ตัวชี้วัด, สถานศึกษา, เรียนภาษา, เชียงใหม่, ผลสัมฤทธิ์, ประถมศึกษา, ศึกษาธิการ, สุพรรณบุรี, มัธยมศึกษา, การแข่งขัน, ภาษาอังกฤษ, คณิตศาสตร์, มหาวิทยาลัย, ประสิทธิภาพ, เศรษฐกิจพอเพียง, กระทรวงศึกษาธิการ, ผู้อำนวยการโรงเรียน