Sunday, May 24, 2015

เครือข่ายด้านสื่อสร้างสรรค์เสนอ๕นโยบายเพื่อเด็ก

สสส. ผนึกภาคีเครือข่ายด้านสื่อสร้างสรรค์เสนอ 5 นโยบายรูปธรรมเพื่อเด็ก เยาวชน ขยาย

ที่สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ สถานีมักกะสัน ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี และประธานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เปิดงาน “มหกรรมสื่อและพื้นที่สร้างสรรค์ เพื่อเด็ก เยาวชน และครอบครัว ตอน เด็กบันดาลใจ คิดได้ คิดเป็น”จัดขึ้นวันที่ 22 – 24 พ.ค. 58 โดยสสส. ร่วมกับสถาบันสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.) แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ภาคีเครือข่ายสื่อสร้างสรรค์ เพื่อถ่ายทอดแบ่งปันองค์ความรู้ที่ได้จากการทำงานด้านสื่อและพื้นที่สร้างสรรค์ให้กับเด็ก เยาวชน พ่อแม่ ครูอาจารย์ ชุมชนท้องถิ่น ร่วมเรียนรู้ นำไอเดียต่างๆ มาต่อยอดพัฒนาสื่อสร้างสรรค์และพื้นที่สร้างสรรค์ด้วยตนเอง

นอกจากนี้ ได้มีการนำข้อเสนอเชิงนโยบาย เรื่องสื่อและพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อเด็ก เยาวชน และครอบครัว เสนอต่อสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)อาทิ รศ.จุมพล รอดคำดี ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ, อาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปค่านิยม ศิลปวัฒนธรรม จริยธรรมและการศาสนา, และรศ.ประภาภัทร นิยมเลขานุการคณะกรรมาธิการปฏิรูปการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

ศ.ดร.ยงยุทธ กล่าวว่า รัฐบาลส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเรียนรู้ตลอดชีวิต พัฒนาทุกช่วงวัย สนับสนุนการผลิตสื่อสร้างสรรค์ เปิดพื้นที่สาธารณะให้เยาวชนและประชาชนได้มีโอกาสแสดงออก และให้ความสำคัญกับการปลูกฝังค่านิยมและจิตสำนึกที่ดี โดยมุ่งเน้นกระบวนการปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งการศึกษาในระบบและการศึกษาทางเลือกไปพร้อมกัน ด้วยการมีส่วนร่วมขององค์กรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงบูรณาการความรู้และคุณธรรมให้เอื้อต่อการพัฒนาผู้เรียนทั้งด้านความรู้ ทักษะ คุณธรรมจริยธรรม และสำนึกความเป็นพลเมือง เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ 3 ดี สื่อดี พื้นที่ดี และภูมิดี ของสสส. ซึ่งจากการลงพื้นที่จริงชุมชนที่ใช้กระบวนการสื่อและพื้นที่สร้างสรรค์ 3 ดี ได้เห็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในการพัฒนาเด็กและเยาวชน ซึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในชุมชนอย่างชัดเจน

“ภาครัฐขอรับข้อเสนอด้านนโยบายสื่อและพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อเด็กและเยาวชน จากเครือข่ายภาคประชาสังคม เพื่อนำไปสู่กระบวนการพิจารณาด้านนโยบายและปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในระดับชาติต่อไป รวมทั้งขอให้สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ พิจารณาข้อเสนอทางนโยบายนี้ให้เป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปสื่อและการเรียนรู้ ขับเคลื่อนกระบวนการสื่อและพื้นที่สร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนสู่ความเป็นพลเมืองในสังคมสุขภาวะ”ศ. ดร.ยงยุทธ กล่าว

ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 14 ปี ที่ผ่านมา สสส.ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยปักหมุดเรื่องยุทธศาสตร์ส่งเสริมสื่อและพื้นที่สร้างสรรค์ในการพัฒนาเด็กเยาวชน และครอบครัว ส่งเสริมให้เกิดสื่อสร้างสรรค์ที่เหมาะสมดี และเพียงพอ โดยใช้สื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการการสร้างภูมิคุ้มกันและเสริมพลังให้เด็ก เยาวชน และครอบครัว โดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ดี คือสื่อดี พื้นที่ดี และภูมิดี

ยุทธศาสตร์ได้สร้างเกิดผลสำเร็จที่เห็นเป็นรูปธรรม 1.การผลักดัน พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 26มีนาคม ที่ผ่านมา 2.การพัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์ เกิดพื้นที่ต้นแบบ เช่น เพชรบุรีดีจัง จ.เพชรบุรี เป็นจังหวัดต้นแบบ และยังมีพื้นที่สร้างสรรค์เครือข่ายเด็กและเยาวชน อีกกว่า 107 แห่ง ใน 38 จังหวัด 3.เกิดพื้นที่ทางปัญญา มีกระบวนการให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง 4.แผนปฏิบัติการร่วมทั้งประเทศ เช่น การประกาศวาระการอ่านแห่งชาติ วาระพื้นที่สร้างสรรค์ ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อสร้างพลเมืองที่ตื่นรู้ เท่าทันสื่อ เข้าใจตนเองและผู้อื่น มีความรู้ความเข้าใจที่จะอยู่ภายใต้สถานการณ์ใหม่ๆ ของสื่อได้อย่างเข็มแข็ง มีจิตสาธารณะ มีศักดิ์ศรี สร้างความเป็นพลเมืองในการใช้สื่ออย่างมีความรับผิดชอบและใช้สื่อเพื่อส่งเสริมสุขภาพอย่างถูกต้อง การจัดงานครั้งนี้จะสะท้อนให้เห็นข้อดี ข้อเสีย ความซับซ้อนของโลกสื่อในยุคปัจจุบัน พร้อมทั้งมีคำแนะนำในการใช้สื่อเพื่อช่วยดึงพลังด้านบวกของเด็ก เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคม โดยเชื่อว่าเด็กจะเป็นแรงบันดาลใจ นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ผู้ใหญ่ในสังคมได้

ด้าน น.ส.เข็มพร วิรุณราพันธ์ ผู้จัดการสถาบันสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.) กล่าวว่า ภาคีเครือข่ายด้านสื่อและพื้นที่สร้างสรรค์ กว่า 200 องค์กรมีข้อเสนอเชิงนโยบาย เรื่องสื่อและพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อเด็ก เยาวชน และครอบครัว 5 ข้อ คือ 1. เสนอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมประกาศนโยบาย “1 ชุมชน 1 พื้นที่สร้างสรรค์” โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วนในชุมชน 2.ในกระบวนการปฏิรูปการศึกษา ควรบูรณาการหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ เรื่อง สื่อสร้างสรรค์ เท่าทันสื่อ และพื้นที่สร้างสรรค์ ในหลักสูตรการศึกษาทั้งในระบบ และนอกระบบ ทุกระดับ และให้มีการพัฒนาครูที่มีความเข้าใจในการพัฒนาเด็กและเยาวชนตามแนวคิด สื่อดี พื้นที่ดี ภูมิดี 3. ทุกภาคส่วน ร่วมสนับสนุนให้เกิดกลุ่ม องค์กรของเด็กเยาวชน ในทุกชุมชน ทุกจังหวัด โดยให้เด็กมีความเป็นอิสระในการสร้างสรรค์และบริหารและจัดการโดยเด็กและเยาวชนเอง รวมทั้งมีการสนับสนุนงบประมาณอย่างต่อเนื่องจากท้องถิ่นและหน่วยงานภาครัฐ

4. มีการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ในชุมชนทุกแห่ง ให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ เพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว ได้แก่ แหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม รวมถึงแหล่งเรียนรู้อื่นๆที่ดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐ เอกชน ให้ตอบสนองการเรียนรู้ของเด็กแต่ละช่วงวัยให้เด็กได้เข้าถึงและมีส่วนร่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย(0-6 ปี) และครอบครัว 5. เพื่อความเข้มแข็ง และยั่งยืนในการพัฒนาพลเมืองที่ตื่นรู้ จึงเสนอให้กองทุนต่างๆ ที่มีอยู่ และที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนนโยบาย 1 ชุมชน 1 พื้นที่สร้างสรรค์ โดยกำหนดสัดส่วนงบประมาณที่ชัดเจน และออกระเบียบที่เอื้อต่อการเข้าถึง และเปิดโอกาสให้กลุ่ม และองค์กรของเด็กเยาวชนและครอบครัว เข้าถึงได้อย่างเสมอภาค

สำหรับงานมหกรรมสื่อและพื้นที่สร้างสรรค์ # เด็กบันดาลใจ เป็นการรวมองค์ความรู้เชิงปฏิบัติในการพัฒนาเด็กในแต่ละช่วงวัย จนกระทั่งเดินทางไปถึงวัยผู้ใหญ่ หวังว่าคนที่มาร่วมงานไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ จะเกิดแรงบันดาลใจ ได้ไอเดียใหม่ๆ นำกลับไปต่อยอดปฏิบัติพัฒนาเด็กๆให้เป็นพลเมืองตื่นรู้ ที่คิดได้ คิดเป็น และสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคม

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2558

ขอบคุณแหล่งข้อมูล: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

คำสำคัญ: , คมชัดลึก

No comments:

Post a Comment