Friday, February 20, 2015

อ้อมกอดของแม่ให้ชีวิตใหม่แก่ลูกๆ

ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง แม้มีภารกิจตัดสินเด็กที่กระทำความผิด แต่การทำผิดไม่ใช่การลงโทษอย่างเดียว จะทำอย่างไรเพื่อคืนคนดีสู่สังคม ทางศาลเยาวชนฯ จึงได้ร่วมมือกับกรมการศาสนาจัดทำค่ายคุณธรรมมาตั้งแต่ปี 2555 ปีละประมาณ 6 ครั้ง ขยายไปตามต่างจังหวัดทั่วประเทศ โดยคัดเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่กระทำความผิดไม่รุนแรง อาทิ คดียาเสพติด ลักทรัพย์ และความผิดเกี่ยวกับเรื่องเพศ แล้วพิจารณาว่าเด็กคนนั้นสามารถแก้ไขฟื้นฟูเปลี่ยนแปลงได้ มาเข้าค่ายทำกิจกรรมกับ พ่อ แม่ พี่น้อง ผู้ปกครอง เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดีขึ้น

ปีนี้ทั้ง 2 หน่วยงานยังสานต่อเจตนารมณ์อันแน่วแน่ เปิดโครงการสร้างคนดีสู่สังคม : ค่ายคุณธรรมสำหรับเยาวชน ประจำปี 2558 ที่วัดยานนาวา กรุงเทพฯ ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ก็เป็นสัญญาณบอกให้บรรดาเยาวชนที่เคยหลงผิดกว่า 100 คน ที่เตรียมตัวเตรียมใจมาเกินร้อยพร้อมเดินเข้าสู่ค่าย ณ ศูนย์กลางปฏิบัติธรรมพุทธสถานตุลาการเฉลิมพระเกียรติ จ.นครปฐม โดยมีคนในครอบครัวอยู่ข้างๆ ผู้ปกครองรายหนึ่งยอมรับว่า ที่ผ่านมามัวแต่ทำงาน ไม่ได้ดูแลลูกเขา จึงไปกระทำความผิด วันนี้เมื่อลูกพร้อมกลับใจ จึงเต็มใจมาร่วมกิจกรรมอบรมคุณธรรมจริยธรรมกับลูก

“อยากให้ลูกปรับพฤติกรรมพร้อมเป็นคนดีสู่สังคม ให้พระสอนขัดเกลาจิตใจ อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ แก้ไขอารมณ์ร้อนของลูกให้เย็นลง ไม่อยากให้เขากลับไปกระทำผิดอีก”

ขณะที่ น้องไกด์ อายุ 18 ปี หนึ่งในเด็กที่เคยกระทำผิดคดียาเสพติดแล้วผ่านค่ายคุณธรรม เป็นตัวอย่างผู้ที่ออกมาใช้ชีวิตปกติในสังคม วันนี้เขาเข้มแข็งพร้อมเปิดเผยชื่อสกุล และหน้าตา โดยมีคุณแม่นั่งเป็นกำลังใจอยู่ตลอดเวลา น้องไกด์ เล่าว่า “ผมไม่คอยบอกรักแม่ ไม่เคยกอดแม่ ไม่เคยแสดงกิริยาแบบนั้น เพราะผมเป็นเด็กผู้ชาย จากที่แทบไม่พูดคุยกัน แต่พออยู่ในค่ายคุณธรรมอยู่กับแม่ 24 ชั่วโมง ทำให้ผมมีเวลาดูแลแม่ ตักข้าวให้แม่กิน ชวนแม่กินข้าว ได้บอกรัก ได้นอนกอดแม่ ได้อยู่กับแม่มากขึ้น ทุกวันนี้ไปไหนมาไหนก็บอกแม่”

น้องไกด์ บอกด้วยรอยยิ้มอีกว่า ไม่กลัวคนข้างนอกจะมองว่าอย่างไร เพราะสามารถกลับตัวได้แล้วจริงๆ การกระทำผิดครั้งนั้นเป็นเพียงอารมณ์ช่วงวัยรุ่น ความคึกคะนอง ชีวิตตอนนี้เริ่มดีขึ้น ได้เรียนด้วย ทำงานด้วย ไม่มีเวลาว่างไปติดเพื่อนมั่วสุมกัน กลับจากทำงานก็เล่นฟุตบอลและอยู่กับแม่ อยากจะฝากถึงทุกคน เพื่อนๆ วัยรุ่นที่คึกคะนองอาจเกิดความผิดพลาดกันได้ อยู่ที่ว่าจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีหรือเปล่า ควรคิดถึงพ่อแม่มากๆ

ส่วนคุณแม่น้องไกด์ หญิงแกร่งผู้อยู่ข้างๆ ลูกชาย กล่าวว่า ถามว่าที่ผ่านมาเรารักลูกไหม รัก แต่ไม่ค่อยดูแลกัน แม่ก็ต้องทำงาน หลังกลับจากค่ายคุณธรรม ก็มีความคิดจะชวนลูกบวช ทุกวันนี้นอนด้วยกัน มีความสุขมาก ซึ่งกว่าจะผ่านเรื่องราวต่างๆ มาเห็นรอยยิ้มกันวันนี้ได้ ถือว่าหนักมาก ทุกวันนี้คอยถามลูกตลอดไปไหน ภูมิใจที่เขาทำงานด้วย เรียนด้วย ส่วนเด็กบางคนกลับตัวไม่ได้ก็มี อันนี้ไม่ได้ว่าเขา แต่น้องไกด์กลับตัวได้ ศาลนัดรายงานตัวและตรวจปัสสาวะเป็นระยะ แม่ก็พาลูกไปตามนัดทุกครั้ง จึงเชื่อว่าความรักของแม่ให้ชีวิตลูกใหม่ได้

ด้าน นางชารียา เด่นนินนาท รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กล่าวว่า เด็กและผู้ปกครอง มากินนอนอยู่ร่วมกัน 3 วัน 2 คืน เปิดให้พระวิทยากรอบรมด้านคุณธรรมจิตใจ เกิดจิตสำนึก รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองได้กระทำไปนั้นเป็นสิ่งไม่ดี สร้างความเดือดร้อนให้แก่พ่อแม่ ผู้ปกครอง ประเทศชาติ ขณะเดียวกันให้พ่อแม่กลับมาฟังลูก การเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีต้องทุ่มเทเสียสละ ให้ฝ่ายเด็กและฝ่ายผู้ปกครองเกิดความเข้าใจกัน เนื่องจากมีหลายคดีที่เด็กกระทำผิด เพราะเกิดจากความไม่เข้าใจกันในครอบครัว พ่อแม่ การสื่อสารไม่ดีทำให้เด็กพลั้งพลาด

“เรามีการประเมินผลทุกครั้ง ปีนี้ถือเป็นปีที่ 9 แล้ว เด็กคนไหนที่เข้าใจและพร้อมเป็นคนดี ท่านผู้พิพากษาสมทบจะทำเรื่องทบทวนเสนอไปยังท่านผู้พิพากษา เพื่อตัดสินคดีให้เป็นผลดีกับเด็ก กลับไปอยู่กับครอบครัว โดยมีท่านผู้พิพากษาสมบทคอยติดตามพฤติกรรมและช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด รวมไปถึงเรื่องการงานอาชีพต่อไปด้วย เกิดผลดีต่อสังคมคือเด็กออกไปจะไม่กระทำผิดซ้ำ โดยผลการประเมินค่ายคุณธรรมทุกครั้งเด็กเกินกว่า 80 เปอร์เซ็นต์กลับออกไปเป็นคนดีของสังคม” นานาทัศนะ

พระพรหมวิชรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กล่าวว่า การจัดค่ายคุณธรรม ถือเป็นความร่วมมือของคณะสงฆ์และหลายภาคส่วนที่จะนำหลักธรรมคำสอนทางศาสนาเข้าไปซึมซับในชีวิตของเยาวชนที่หลงผิดไปชั่วครั้งชั่วคราวได้มีโอกาสกลับตัว หากไม่ได้กระทำผิดซ้ำอีก ส่วนเด็กจะได้เห็นว่า ทุกภาคส่วนยินดีให้โอกาส จะไม่ถูกลืม ถูกทอดทิ้งในสังคม

ฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เด็กและเยาวชนที่ถูกกล่าวหาว่าทำความผิด เป็นกลุ่มที่ควรได้รับการดูแลและพัฒนาเป็นพิเศษ เพื่อปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนมีความผูกพันกับครอบครัว มีคุณธรรมจริยธรรม มีความพอเพียง ดำเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัย และมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนและประเทศชาติ

กฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดี ศน. กล่าวว่า การแก้ไข ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้ให้ดีขึ้น เขาก็จะเติบโตเป็นพลเมืองดีและสร้างความมั่นคงให้แก่สังคมประเทศชาติโดยไม่หวนกลับไปกระทำความผิดซ้ำอีก นำคำสอนทางศาสนาไปพัฒนาตนเอง สร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจ อยู่ร่วมกับบุคคลอื่นๆ ในสังคมได้

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558

ขอบคุณแหล่งข้อมูล: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

คำสำคัญ: , คมชัดลึก

No comments:

Post a Comment