Sunday, November 23, 2014

วิกฤติ

ปี 2557 เป็นปีที่ครบรอบ "25 ปี อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก" ช่วงเช้าวันที่ 19 พฤศจิกายน ตัวแทนเด็กและเยาวชนทั่วประเทศกว่า 200 คน มารวมตัวกันใน งานประชุมระดับชาติว่าด้วยเรื่อง "สังคมที่เป็นมิตรต่อเด็ก" ณ โรงแรมอินทรา ย่านประตูน้ำ เพื่อกระตุ้นทั่วโลก เด็กๆ เหล่านี้พยายามส่งเสียงให้ผู้ใหญ่รับรู้ว่า สิทธิของพวกเขากำลังถูกละเมิดหรือถูกละเลยอย่างไรบ้าง !?!

ปัญหาของพวกเขาไม่ได้มีแค่ที่เป็นข่าวในทีวีหรือหนังสือพิมพ์บ่อยๆ เช่น แรงงานเด็ก, เด็กถูกข่มขืน, เด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ ฯลฯ แต่ยังมีปัญหาประจำวันซึ่งพวกเขาต้องเผชิญอย่างไร้ทางเลือก และไม่รู้จะไปร้องเรียน หรือไปบอกผู้ใหญ่อย่างไร เช่น พ่อแม่ไม่มีเวลาเลี้ยงดูใกล้ชิด ผู้ปกครองห้ามแสดงความคิดเห็น เด็กท้อง เด็กพิเศษบางกลุ่มถูกล้อเลียน เด็กชาติพันธุ์ถูกเหยียดหยาม ชุมชนไม่มีพื้นที่จัดกิจกรรมให้ เด็กเข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสาร ฯลฯ

"น้องตู้" พงษ์นรินทร์ นนท์ก่ำ จากเชียงใหม่ ให้ข้อมูลในฐานะรองประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ว่า ปัญหาของเด็กๆ มีมากมายหลายอย่าง เชื่อว่าคนไทยอยากช่วย แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ส่วนตัวแล้วทุกคนช่วยได้ทันที การสร้างสังคมเป็นมิตรต่อเด็กทำได้ในทุกภาคส่วนที่ตนใกล้ชิด โดยเฉพาะภาคธุรกิจ บริษัท โรงงาน สถานประกอบการ ฯลฯ

"ภาคธุรกิจทำได้ง่ายมาก เช่น ในบริษัทหรือโรงงาน เริ่มจากเด็กอยู่ในท้อง ก็ควรหาพื้นที่พิเศษให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ได้พักผ่อน เมื่อเด็กคลอดออกมาก เตรียมจัดห้องให้แม่ลูกอ่อนให้นมลูก ถ้าเป็นบริษัทใหญ่มีพนักงานมาก ต้องจัดพื้นที่ให้พ่อแม่สามารถพาลูกมาทำงานพร้อมกันได้ หรือเป็นศูนย์ดูแลเด็กเล็ก เมื่อเด็กโตเริ่มไปโรงเรียน ช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา มีเงินทุนพิเศษให้ กิจกรรมส่งเสริมเด็กแบบนี้ ทำได้ทันทีไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมาย" น้องตู้ เสนอความเห็น

ทั้งนี้ มีเด็กหลายคนสะท้อนให้ฟังว่า ปัญหาของพวกเขามีหลายเรื่อง ใครสนใจเรื่องใดก็จับกลุ่มกันแสดงความเห็น ช่วยกันหาทางแก้ไขแล้วช่วยกันเสนอไปยังผู้ใหญ่ในโรงเรียน ในชุมชนหรือตัวแทนภาครัฐ แม้ไม่สามารถแก้ไขได้ทุกเรื่อง แต่ดีกว่าในอดีตที่ไม่มีใครสนใจรับฟัง อย่างไรก็ตามมีเด็กอยู่กลุ่มหนึ่งที่ไม่สามารถพูดปัญหาของพวกเขาให้ใครฟังได้

นั่นคือ "เบบี้" หรือ เด็กอ่อนแรกเกิดนั่นเอง !

ข้อมูลจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ "ทีดีอาร์ไอ" ระบุว่า ประเทศไทยมีระบบสวัสดิการสังคมช่วยเหลือประชาชนเกือบทุกคน ตั้งแต่เกิดจนถึงผู้สูงอายุหรือเจ็บป่วยเสียชีวิต แต่มีเด็กกลุ่มหนึ่งจำนวนไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน กลายเป็นเด็กนอกระบบไม่มีใครเหลียวแล ได้แก่ เด็กแรกเกิดตั้งแต่ 0-6 ปี ที่เป็น "ลูกของแรงงานที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม" หากคำนวณเป็นตัวเลข เบบี้แรกเกิดจนอายุถึง 6 ขวบไทยมีประมาณ 5 ล้านคน แต่มีเพียง 1 ล้านคนเท่านั้นที่ได้รับ "เงินสงเคราะห์บุตร 400 บาทต่อเดือน" หมายถึงมีเบบี้ประมาณร้อยละ 76 กำลังถูกทอดทิ้ง เพราะผู้ปกครองไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมนั่นเอง

ทีดีอาร์ไอเสนอวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น 2 ข้อ คือ 1.เพิ่มเงินอุดหนุนจาก 400 บาทให้เป็น 600 บาท 2.จัดทำหลักฐานเด็กแรกเกิด 0-6 ขวบทุกคน เพื่อให้ได้รับเงินสนับสนุนนี้ ส่วนใครที่อยู่ในระบบประกันสังคมควรได้รับเพิ่มอีก 200 บาทรวมเป็น 800 บาท โดยจะมีเบบี้ได้รับเงินอุดหนุนในปี 2558 ประมาณ 5.2 ล้านคน ใช้งบประมาณ 3.7หมื่นล้านบาท หรือเพียงครึ่งเดียวของเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

สำหรับ "ป้าอรุณี ศรีโต" ประธานอนุกรรมการบริหารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปฐมวัยลูกของผู้ใช้แรงงาน แสดงความเห็นเรื่องนี้ว่า เงินสนับสนุนเลี้ยงลูกอ่อนเบบี้นั้น 400 หรือ 600 บาทยังไม่พอ รัฐบาลต้องสนับสนุนให้เดือนละไม่ต่ำกว่า 1,200 บาทต่อเด็ก 1 คน

"ตอนนี้พวกเราที่อยู่ในระบบประกันสังคมได้เดือนละ 400 บาทต่อลูกเล็ก 1 คน และจำกัดให้แค่ไม่เกิน 2 คน เท่านั้น กฎนี้ใช้มานานตั้งแต่ปี 2533 ค่าครองชีพสูงขึ้นมากกว่าเดิมไปกี่เท่า ยังให้แค่ 400 บาทเหมือน 25 ปีที่แล้ว อยากเสนอให้แก้กฎหมายใหม่เป็นเดือนละ 1,200 บาท ให้เด็กทุกคนจนกว่าอายุ 6 ขวบ และไม่ต้องจำกัดว่า ให้แค่ครอบครัวละ 2 คน เพราะปัจจุบันคนไม่ค่อยอยากมีลูกกันอยู่แล้ว" ป้าอรุณีกล่าว

ทั้งนี้ ผลการศึกษาข้อดีของการให้เงินอุดหนุนเลี้ยงดูเบบี้พบว่า เด็กอายุ 0-6 ขวบ เป็นช่วงมนุษย์เกิดการพัฒนาสูงสุด ส่งผลต่อชีวิตที่เหลือในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น หากเปรียบเทียบเด็กได้รับเงินอุดหนุน 1 ล้านคน กับอีก 4 ล้านคนที่ถูกทอดทิ้ง พบว่า เด็กกลุ่มแรกมีผลการเรียนดีกว่า ขาดเรียนน้อยกว่า และสำเร็จการศึกษามากกว่า ส่วนเรื่องสุขภาพก็มีภาวะโภชนาการดีกว่า เป็นโรคน้อยกว่า เมื่อเจ็บป่วยเข้าถึงการรักษาดีกว่าเช่นกัน

"โลกนี้ช่างรุนแรง !" - ปี 2555 เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ถูกฆาตกรรม 9.5 หมื่นราย - 6 ใน 10 ของเด็กอายุ 2-24 ปีถูกลงโทษทางกายจากผู้ปกครอง - 1 ใน 3 ของเด็กอายุ 13-15 ปีถูกรังแกประจำ - 50% ของเด็กอายุ 15-19 ปีทั่วโลก (126 ล้านคน) คิดว่าบางครั้งสามีทำร้ายภรรยาเป็นเรื่องยอมรับได้

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2557

ขอบคุณแหล่งข้อมูล: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

คำสำคัญ: , คมชัดลึก

No comments:

Post a Comment