ชุมชนคุณธรรมพลัง"บวร"เชิดชูชาติศาสนา พระมหากษัตริย์
เมื่อเร็วๆ นี้ นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้ต้อนรับ และบรรยายในหัวข้อ “บทบาทภาระหน้าที่การบริหารงาน การดำเนินงานของกรมการศาสนา” แก่คณาจารย์และนักศึกษา หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต และหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาศาสนากับการพัฒนา (ภาคปกติ) ชั้นปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 2/2558 คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมี ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กรมการศาสนาร่วมรับฟังการบรรยาย ณ ห้องประชุมกรม ชั้น 12 อธิบดีกรมการศาสนาเริ่มต้นด้วยการแนะนำถึง “วิสัยทัศน์ของกรมการศาสนา” ว่า เป็นองค์กรหลักในการส่งเสริมและสร้างความสมานฉันท์ทั้งแผ่นดิน ภายใต้หลักธรรมทางศาสนา และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมี “พันธกิจ” 4 ข้อ คือ 1.สนองงานพระราชพิธี พระราชกุศล รัฐพิธี และศาสนพิธี 2.ปลูกฝังและเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต 3.ส่งเสริมและสานสัมพันธ์กิจกรรมทางศาสนา 4.อุปถัมภ์ ทำนุบำรุง คุ้มครองกิจการด้านศาสนา ภายใต้ 4 ยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนและการดำเนินงานของกรมการศาสนา ยุทธศาสตร์ที่ 1 รักษาสืบทอดสถาบันหลักของประเทศ ให้ประชาชนเกิดความภาคภูมิใจ ความรักและหวงแหน ได้แก่ 1.สนองงานและสืบสานงานพระราชพิธี พระราชกุศล พระบรมราชูปถัมภ์ พระบรมราชานุเคราะห์ รัฐพิธี และศาสนพิธี ให้ถูกต้องตามโบราณราชประเพณี และอนุรักษ์สืบทอดให้มั่นคงสืบไป 2.ปฏิบัติงานด้วยความถูกต้องและสง่างาม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในบทบาทหน้าที่ของการรับสนองงานและสืบสานงานพระราชพิธี พระราชกุศล พระบรมราชูปถัมภ์ พระบรมราชานุเคราะห์ และงานศาสนพิธี อันถือเป็นหน้าที่อันทรงเกียรติ ยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริม สืบสาน ปลูกฝังจิตวิญญาณให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธา ในสถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้แก่ 1.กระตุ้นและส่งเสริมให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมทางศาสนา 2.น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่วิถีปฏิบัติ 3.ปลูกฝังให้ประชาชนเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในสถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ยุทธศาสตร์ที่ 3 บูรณาการการทำงานเครือข่าย เพื่อขับเคลื่อนหลักธรรมทางศาสนาสู่ประชาชน ได้แก่ 1.ยึดหลักการบูรณาการและใช้หลักธรรมทางศาสนาเป็นเครื่องมือในการสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน 2.ร่วมมือกับทุกภาคส่วน วางรากฐานในเรื่องคุณธรรมจริยธรรมให้มั่นคง 3.ประสานการทำงานร่วมกับเครือข่าย เพื่อขับเคลื่อนหลักธรรมทางศาสนาสู่ประชาชน ยุทธศาสตร์ที่ 4 น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บูรณาการงานศาสนา ได้แก่ 1.น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นนโยบายหลักในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ของกรมการศาสนา 2.กำหนดให้วัด ศาสนสถาน รวมทั้งองค์กรทุกเครือข่าย ได้เปิดพื้นที่ให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของชุมชน อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวต่อว่า สำหรับกลยุทธ์การขับเคลื่อนการดำเนินงานของกรมการศาสนานั้น ได้ใช้พีระมิดคุณธรรม 4 ด้าน ในการขับเคลื่อนให้เกิด “สังคมคุณธรรม” ประกอบด้วย ด้านที่ 1 บ้าน–วัด–โรงเรียน เกิดการผนึกพลังในการขับเคลื่อน “สังคมคุณธรรม” ด้านที่ 2 ประกอบด้วยข้อปฏิบัติหลัก 3 ประการ ในการขับเคลื่อนให้เกิดสังคมคุณธรรม ประกอบด้วยยึดและปฏิบัติตามหลักธรรมทางศาสนาของแต่ละศาสนา สำหรับศาสนาพุทธให้รักษาศีล 5 น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิต และการดำรงชีวิตตามวิถีวัฒนธรรมที่ดีงาม ด้านที่ 3 ความมั่นคงของประเทศไทย 3 สถาบันหลักที่สำคัญของชาติ คือ สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นพลังที่ยั่งยืนของประเทศ ที่นำพาชาติก้าวหน้าและดำรงอยู่อย่างมั่นคง ด้านที่ 4 องค์ประกอบสังคมคุณธรรม คือ คนคุณธรรม ชุมชนคุณธรรม องค์กรคุณธรรม หน่วยงานคุณธรรม และสังคมคุณธรรม เป้าหมายของสังคมคุณธรรม คือ ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่มอายุ ทุกพื้นที่ นำหลักธรรมไปประพฤติปฏิบัติ ให้มีชีวิตที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน อย่างสมดุล สำหรับการดำเนินงานโครงการ/กิจกรรมของกรมการศาสนา ประกอบด้วย 1.การสร้างความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สนองงานพระราชพิธี พระราชกุศล รัฐพิธี และศาสนพิธี ส่งเสริมการจัดกิจกรรมวันสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2.ส่งเสริมให้เกิดสังคมคุณธรรม โดยพลังศาสนา เช่น ชุมชนคุณธรรม ได้แก่ โครงการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ศูนย์อบรมศาสนาอิสลามและจริยธรรมประจำมัสยิด ลานธรรม ลานวิถีไทย โดยใช้มิติบวร องค์กร/หน่วยงานคุณธรรม และ คนมีคุณธรรม ได้แก่ โครงการยกย่องผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา โครงการส่งเสริมพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล 3.สนับสนุนส่งเสริมองค์กรศาสนา เผยแผ่หลักธรรมคำสอนทางศาสนาสู่ประชาชน ให้ความสำคัญ ส่งเสริมให้องค์กรทางศาสนาจัดกิจกรรมและการมีส่วนร่วม และการทำงานภายใต้มิติศาสนิกสัมพันธ์ การทำงานดังที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ผลการดำเนินงานของกรมการศาสนาถือเป็นที่รู้จัก จากการสำรวจของกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 3,106 คน ระหว่างวันที่ 10–18 สิงหาคม 2558 สรุปผลได้ ดังนี้ การปกป้องและเชิดชูสถาบัน ศาสนา และพระมหากษัตริย์ 86.25% 2.การทะนุบำรุงและอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ 71.82% 3.การอนุรักษ์ ฟื้นฟู และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรม 63.25% รู้จักผ่านกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เทศกาลมาฆบูชา และเทศกาลฮัจญ์ เป็นต้น การดำเนินงานในปี 2558 ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการกระตุ้น เชิญชวน ให้เครือข่ายทุกภาคส่วนรวมพลังในการขับเคลื่อนกิจกรรมผ่าน “บวร” ซึ่งผลโพลล์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เห็นภาพแห่งความสำเร็จนั้น
วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน 2559
ขอบคุณแหล่งข้อมูล: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
คำสำคัญ: , คมชัดลึก
No comments:
Post a Comment