วิทยาลัยเทคโนโลยีพัฒนบัณฑิต เป็นวิทยาลัยที่อยู่ใน อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ copy วิทยานิพนธ์ขายเล่มละ ๑๕,๐๐๐ บาท

วิทยาลัยเทคโนโลยีพัฒนบัณฑิต เป็นวิทยาลัยที่อยู่ใน อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์

เปิดสอนระดับ ปวช. และ ปวส. และเปิดเป็นศูนย์ปริญญาโทของมหาวิทยาลัยสยาม

ซึ่งเปิดสอนระดับปริญญาโท เสาร์-อาทิตย์ สิ่งที่ทำให้เกิดความสงสัย คือ

1.วิทยาลัยแห่งนี้ วันจันทร์-ศุกร์ ไม่มีนักเรียนนักศึกษามาเรียนเลย

มี มาเรียนจริงๆ 3-5 คน/วัน มีไม่เกินนี้จริงๆ แต่ วิทยาลัยแห่งนี้ แจ้งยอดนักศึกษาไปที่พื้นที่เขตศึกษาฯ

ว่ามีนักเรียนนักศึกษา ร่วมร้อยคน (แรกๆแจ้งยอดว่ามีนักเรียน นักศึกษาร่วม 120 คน

แต่ พอเจ้าหน้าที่เขตฯ ทำการตรวจสอบจึงตัดนักเรียน นักศึกษาผีออก เหลือยอดแค่ 80-90 คน)

ซึ่งวิทยาลัยแห่งนี้ เปิดมา 3 ปี แต่ ไม่มีนักศึกษาที่เป็นตัวเป็นตนให้เห็นเลย มีแต่นักเรียน "ผี" เป็นไปได้หรือไม่ วิทยาลัยแห่งนี้ เจตนาเปิดขึ้นมาเพื่อ "โกงกินเงินอุดหนุนของรัฐบาล"

เพราะ ถ้ามีความตั้งใจจริง ระยะเวลา 3 ปี น่าจะมีนักเรียนนักศึกษามากกว่านี้

ในแต่ละวัน มีนักเรียนนักศึกษามาเรียนแค่ 3-5 คน มีแค่นี้จริงๆ 2.ครู หรือ อาจารย์ของวิทยาลัยแห่งนี้ บางคน มีแต่ชื่อ แต่ไม่มาสอนเลย

สาเหตุเพราะ มีการจ้างให้ครูที่มีใบประกอบวิชาชีพนี้มาเป็นครูประจำชั้น

เพื่อเบิกกินค่าหัวนักเรียน จากรัฐบาล

3.นักเรียน นักศึกษาฝึกงาน มียอด 29 คน แต่ ไม่มีการส่งไปฝึกงานจริง

(ที่มีตัวตนจริงๆก็ที่ทำงานอยู่หน่วยงานนั้นๆ แต่ไม่ทราบว่ามีกี่คนจริงๆและนักเรียน

นักศึกษาที่ว่านั้นก็ไม่มีการมาเรียนเลยแม้แต่วันเดียว)

4.วิทยาลัยแห่งนี้ มีการ "ขายวิทยานิพนธ์" ให้กับนักศึกษาในระดับปริญญาโท

กล่าวคือ "ผู้รับใบอนุญาติ" จะ copy วิทยานิพนธ์ ที่มีใน Internet

แล้วให้ครูในวิทยาลัย พิมพ์ใหม่ โดยการจ้างให้ครูในวิทยาลัยพิมพ์ คนละ 600 บาท/ 1 เรื่อง นักศึกษา ป.โท รุ่นนี้ ส่วนมากจะเรียน "บริหารการศึกษา และ สาขา รปม."

ซึ่งส่วนมากจะเป็น เจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในตำบลและอำเภอใกล้เคียง

และรุ่นนี้ พึ่งจะได้สอบเมื่อ กลางเดือนสิงหาคม พ.ศ.2557 ที่ผ่านมา

เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเงินค่าเทอม รายละเอียดอ่านต่อได้

และ ผู้อำนวยการ ก็ลงเรียนกับนักศึกษารุ่นที่ว่านี้เหมือนกัน

แต่ไม่มีความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องการจัดการบริหารเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งทาง "ผู้รับใบอนุญาติ" จะไป เสนอขายให้กับนักศึกษาระดับปริญญาโท ในราคารื่องละ 15,000 บาท

สามารถ ตรวจสอบได้ว่า วิทยานิพนธ์เรื่องใด copy มาจริงหรือไม่

ด้วยโปรแกรม "อักขราวิสุทธิ์" หรือ โปรแกรมที่ใช้ตรวจสอบวิทยานิพนธ์อีกหลายโปรแกรม 5.เป็นไปได้หรือไม่ว่า วิทยาลัยแห่งนี้เปิดขึ้นมาเพื่อ "ขายวุฒิการศึกษา" ให้กับนักเรียนนักศึกษา

กล่าวคือ อาจมีการตกลงกันระหว่างทางวิทยาลัยกับนักศึกษาว่า ไม่จำเป็นต้องมาเรียน

แต่ ถ้าทางเจ้าหน้าที่จากเขตฯมาตรวจ ก็จะโทรศัพท์ให้นักเรียนนักศึกษาที่รู้ๆกันนั้น มาที่วิทยาลัย เพื่อให้ทางกรรมการจากเขตฯเห็นว่า มีนักเรียนนักศึกษาจริง

ซึ่งทางกรรมการที่มาตรวจสอบจากเขตฯ ก็รู้ว่าวิทยาลัยแห่งนี้ "ไม่มีนักเรียน นักศึกษา ตามที่ได้แจ้งมาจริง" และรู้สึกลำบากใจในเรื่องนี้เหมือนกัน

6.เอกสารต่างๆเกี่ยวกับ "รายรับ-รายจ่าย" ของทางวิทยาลัย ไม่มีเลย

ตั้งแต่ทำการเปิด ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว "เอกสารรายรับ-รายจ่าย" เป็นเอกสารที่มีความสำคัญมาก

ซึ่งทางโรงเรียนหรือทางวิทยาลัยทุกแห่งจะต้องทำการจัดเก็บไว้ เพื่อให้ทางเขตฯตรวจสอบ

แต่ ที่นี่ ไม่มีเลย ถ้าทางเขตฯจะมาตรวจสอบก็จะรีบสั่งให้ทางครู "เมก" ขึ้นมาย้อนหลัง

ซึ่งเอกสารที่ว่าก็มีไม่ครบ ทำผิดๆถูกๆ สักแต่จะทำให้ทางเจ้าหน้าที่จากเขตฯตรวจ

แต่ ทางเจ้าหน้าที่จากเขตฯ ก็รู้ว่าเป็นการ "เมก" ขึ้นมา

จึงไม่มีการแม้แต่จะจับเอกสารสั่วๆเหล่านั้นขึ้นมาดู 7.ผู้อำนวยการของวิทยาลัย ก็ลงเรียน "บริหารการศึกษา" ของ มหาวิทยาลัยสยาม

(พึ่งจะลงเรียนพร้อมกันกับนักศึกษา ป.โท รุ่นแรก รุ่นนี้ที่มีปัญหา

เพราะทางผู้รับใบอนุญาตรับเงินค่าเทอมจากนักศึกษา ป.โท มาแล้ว แต่ไม่โอนให้ ม.สยาม

จนมีนักศึกษาส่วนหนึ่งพากันไปสอบถามความจริงที่ ม.สยาม

และได้สอบถามและเข้าพบกับรองอธิการบดี ม.สยาม เรื่องจึงแดงออกมาว่า ทางผู้ร้บใบอนุญาตรับเงินจากนักศึกษามาแล้ว แต่ ไม่โอนมาให้ทาง ม.สยาม

สุดท้ายทาง ม.สยามจึงให้เส้นตายว่าถ้าไม่นำเงินค่าเทอมชำระให้ครบจะฟ้องร้อง ทางผู้รับใบอนุญาตจึงต้องขายโรงเรียนอีกที่หนึ่งที่ อ.กุมภาปี จ.อุดรธานี

ซึ่งก็มีแต่เด็กผีเหมือนเดิม เพื่อนำเงินมาชำระค่าเทอมที่ค้างจ่ายก้อนนี้) นักศึกษา ป.โท รุ่นนี้ พึ่งจะได้สอบเมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา และ สาเหตุที่พึ่งได้สอบก็เพราะเรื่องค่าเทอม

ประกอบกับรอการ copy วิทยานิพนธ์แล้วนำมาพิมพ์ใหม่ขายจากผู้รับใบอนุญาต รุ่นที่มีการ ซื้อวิทยานิพนธ์ เช่นเดียวกับนักศึกษาคนอื่นๆ (ผู้อำนวยการ เป็น พี่ชาย ของ ผู้รับใบอนุญาต)

แต่ ผู้อำนวยการและผู้รับใบอนุญาต ไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ 7 มาตรฐาน 35 ตัวชี้วัดเลยแม้แต่น้อย

แต่ ขี้โม้และขี้คุยว่า ข้ารู้ ข้าแน่ ข้าเก่ง ช่างน่าสมเพชเสียจริงๆ

เวลาเจ้าหน้าที่และกรรมการจากทางเขตฯ มาตรวจสอบหรือประเมิน

ผู้รับใบอนุญาต ก็จะไม่โผล่มาให้เห็นหน้า เพราะมีแต่ราคาคุย หรือพูดง่ายๆว่า ไม่มีความรู้เลย แต่ ลับหลังกรรมการเขตฯ กลับพูดจาคุยข่มและอวดอ้างว่าตนรู้ ตนแน่

(ไม่รู้ว่าจบด๊อกเตอร์มาได้ยังไง ขนาด อีเมล์ของตัวเองก็ไม่มี ส่งเมล์ก็ไม่เป็น น่าสมเพชไหมล่ะ)

ส่วน ผู้อำนวยการ ยิ่งไปกันใหญ่ ตอบอะไรไม่ได้เลยซักอย่าง

มีแต่ให้ครูในวิทยาลัย รับหน้าแทน ตอบคำถามแทน โดยที่ตัวเองไม่มีปัญญาจะตอบคำถาม

(หรือบางทีก็สักแต่ตอบไป แต่ตอบไม่ถูกเลยแม้แต่น้อย น่าสมเพชจริงๆ)

เรื่องนี้เป็นความจริงอย่างที่สุด เพราะ เจ้าหน้าที่จากทางเขตฯ และ กรรมการจากเขตฯ สามารถยืนยันได้

8.ไม่ทราบว่าทางมหาวิทยาลัยสยาม มีส่วนรับรู้หรือรู้เห็นเป็นใจในเรื่องของวิทยานิพนธ์

ที่มีการขายกันในราคาเรื่องละ 15,000 บาท นี้หรือไม่

(ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะรู้ เพราะ ทางมหาวิทยาลัยสยามก็พึ่งรู้เรื่องว่า

ทางผู้รับใบอนุญาตได้โกหกทางมหาวิทยาลัยสยามว่า

"นักศึกษาค้างค่าเทอม" หรือ "นักศึกษายังไม่ชำระค่าเทอม" ซึ่งในความเป็นจริง

นักศึกษาได้จ่ายชำระค่าเทอมไปหมดแล้ว และความเป็นจริงน่าจะจบตั้งแต่ปีที่แล้ว

ซึ่งทางนักศึกษาได้เดินทางไปสอบถามเรื่องสาเหตุที่ว่า "ทำไมทางนักศึกษาถึงไม่ได้สอบ"

กับทางรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสยาม เรื่องทุกอย่างจึงแดงขึ้นมาว่า "ผู้รับใบอนุญาตโกหกทุกคน")

ผู้รับใบอนุญาต ชื่อ นายสิทธิศักดิ์ พัฒนชัย

ผู้อำนวยการ ชื่อ นายวรวิทย์ พัฒนชัย จึงอยากร้องเรียนเพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่า 1.นักเรียน นักศึกษาของวิทยาลัยเทคโนโลยีพัฒนบัณฑิต แห่งนี้ แท้จริงแล้ว มีนักเรียนที่มีตัวตนจริงๆที่มาเรียนจริงๆ กี่คน

2.และยอดนักเรียน นักศึกษา ที่มีตัวตนจริงๆนี้ "ตรงกับยอดที่แจ้งไปทางเขตฯ หรือไม่"

3.วิทยาลัยแห่งนี้เบิกเงินโอนเกินจากทางเขตฯ และเมื่อทางเขตฯทำการทวงถาม

ทั้งทางโทรศัพท์และทำหนังสือทวงถาม แต่ ทางวิทยาลัยก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ

เพื่อที่จะนำเงินส่วนที่เบิกเกินมาคืน จนทางเขตฯต้องทำการ "อายัดบัญชีเงินรายได้ของทางวิทยาลัย" จนกว่าจะได้ยอดเงินที่เบิกเกินคืน

ในกรณีนี้ เหมือนกับว่า "เขตฯเอาเงินหลวงที่โอนมาให้ทางวิทยาลัย มาใช้หนี้ในส่วนที่ทางวิทยาลัยเบิกเกิน และเท่ากับว่าทางวิทยาลัยได้เงินหลวงไปใช้ฟรีๆ" ใช่หรือไม่

หรือสรุปง่ายๆว่า ทางวิทยาลัยได้เงินที่ทางเขตฯโอนให้ใช้ฟรีๆ

(ยอดเท่าไหร่ไม่แน่นอน แต่ หลักฐานการโอนผิดและการเบิกมี สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้อยู่แล้ว)

4.การ copy วิทยานิพนธ์ นั้น ถือเป็นบ่อนทำลายการศึกษาอย่างรุนแรง

และ ยิ่งทางผู้รับใบอนุญาตได้ดาวน์โหลดวิทยานิพนธ์จาก Internet มาเสนอขาย

ให้กับนักศึกษาในระดับปริญญาโทนั้น เป็นการกระทำยิ่งกว่าบ่อนทำลายการศึกษา

(ตัวอย่างวิทยานิพนธ์มีแนบ หรือ จะตรวจสอบจากนักศึกษาปริญญาโททั้งหมด

ที่เรียนกับ ม.สยาม จาก ศูนย์ของวิทยาลัยเทคโนโลยีพัฒนบัณฑิตนี้

รับรองว่า "copy" มาทั้งนั้น ฉบับละ 15,000 บาท)

5.ถ้าอยากรู้ว่าวิทยานิพนธ์นี้ copy มาจริงหรือไม่

สามารถตรวจสอบนักศึกษาปริญญาโทที่เรียนจากศูนย์วิทยาลัยเทคโนโลยีพัฒนบัณฑิตได้ทุกเรื่อง

โดยการใช้โปรแกรมอักขราวิสุทธิ์ตรวจสอบ หรือ หลักฐานก็จากครูที่รับจ้างพิมพ์ในวิทยาลัย

ซึ่งครูทุกคน (ที่เหลืออยู่ตอนนี้มีแค่ 4-5 คน เท่านั้น แต่ ทางวิทยาลัยกลับมีการเบิกเงินจากทางเขตฯ ว่ามีครูร่วมสิบกว่าคน )

ครูของวิทยาลัยเทคโนโลยีพัฒนบัณฑิต นี้ เหลืออยู่แค่ 4-5 คนเท่านั้น

ครูแผนกช่างยนต์ ได้ลาออกตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2557

(เพราะมีปัญหาในการไม่จ่ายเงินเดือน เพราะ บัญชีของทางวิทยาลัยโดนทางเขตฯอายัด

เนื่องจากทางเขตฯได้โอนเงินเกิน แต่ ทางผู้รับใบอนุญาตได้เบิกเงินส่วนที่เกินนั้นมาใช้

และไม่มีการส่งคืนให้กับทางเขตฯ ทางเขตฯจึงต้องดำเนินการอายัดบัญชีของทางวิทยาลัย) แต่ ทำไมทางวิทยาลัยเทคโนโลยีพัฒนบัณฑิต จึงไม่มีการถอดชื่อของครูคนที่ลาออก

และ ยังมีการเบิกเงินทั้งเงินอุดหนุนของนักเรียนแผนกช่างยนต์ (เพราะครูคนนี้จบช่างยนต์และมีใบประกอบวิชาชีพครู)

และ ยังมีการเบิกเงินเดือนจากทางเขต (โดยยังใช้ชื่อครูคนนี้เบิกอยู่) 7.ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2557 มีครูออกจากวิทยาลัยสั่วๆแห่งนี้หลายคน

สาเหตุเพราะ เงินเดือน เดือนกรกฎาคม 2557 ทางวิทยาลัยไม่ยอมจ่ายให้กับครูทุกคน

และได้ทำการผลัดไปเรื่อยๆ (ทั้งที่ในความเป็นจริงจะต้องจ่ายเงินเดือนของเดือนกรกฎาคม 2557 อย่างช้าที่สุดไม่เกิน 1-5 สิงหาคม 2557)

แต่ทางผู้อำนวยการและผู้รับใบอนุญาตกลับมีการผลัดไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่คิดว่าครูทุกคนมีภาระและต้องใช้จ่าย ผัดผ่อนด้วยการโกหกไปเรื่อยๆด้วยการอ้างว่า "นักศึกษา ป.โท ยังไม่จ่ายเงินค่าเทอม ถ้านักศึกษาจ่ายเงินค่าเทอมแล้วจะจ่ายเป็นเงินเดือนให้" แต่ในความเป็นจริง นักศึกษา ป.โท นำเงินค่าเทอมมาจ่ายตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 หมดแล้ว

ทางวิทยาลัยมีการถูกทางเขตฯอายัดบัญชี (เนื่องด้วยสาเหตุที่ได้กล่าวมาแล้ว) แต่ ยังมีการนำเอาชื่อครูที่ออกมาเบิกเงินเดือนครูในแต่ละเดือน (ซึ่งมีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.สมเด็จ แล้วว่า สาเหตุที่ต้องลงบันทึกเพราะอะไร สาเหตุที่ออกเพราะอะไร)

8.อาคารไม่ได้มาตรฐานเลยแม้แต่น้อย

8.1 ขนาดของห้องเรียนไม่ได้มาตรฐาน

8.2 แบบอาคารไม่ได้มาตรฐาน (มีอาคารอยู่อาคารเดียว แต่ สร้างมา 3 ปีตั้งแต่เปิด ณ.ปัจจุบันก็ยังสร้างไม่เสร็จ)

8.3 ห้องคอมพิวเตอร์ ตอนขอเปิดวิทยาลัยได้ไปขอเช่าเครื่องคอมพิวเตอร์จากร้านอินเตอร์เน็ตในอำเภอ เมืองกาฬสินธุ์มา เพื่อให้ทางกรรมการจากทางเขตฯ ตรวจสอบ แต่ ปัจจุบัน เครื่องคอมพิวเตอร์ในห้องคอมพิวเตอร์กลับเป็นเครื่องมือสองไม่ตรงกับตอนที่ ตรวจสอบ และ มีแต่เครื่องที่ไม่สามารถใช้งานได้

9.ผู้รับใบอนุญาต สักแต่เก่งลับหลัง ใช้ถ้อยคำหยาบคายกับเจ้าหน้าที่เขตฯ (โชว์ Power ต่อหน้าครูเวลาประชุม แต่ ตอนที่เจ้าหน้าที่จากเขตฯมาประเมิน กลับหัวหดไม่ยอมโผล่หน้ามา และสาเหตุที่ไม่ยอมโผล่หน้ามา ก็เพราะรู้ไม่จริง หรือพูดง่ายๆ จบด๊อกเตอร์มาแต่ไม่มีความรู้ อีเมล์ก็ไม่มี ส่งเมล์ก็ไม่เป็น นี่หรือคือคนที่จบด็อกเตอร์ น่าสมเพชไหม)

10.ผู้รับใบอนุญาต ชอบแอบอ้างชื่อรัฐมนตรี (ทั้งๆที่รัฐมนตรีไม่ได้รู้จักมักจี่กับตัวของผู้รับใบอนุญาตเลยแม้แต่น้อย ที่ผู้รับใบอนุญาตเอาชื่อมาแอบอ้าง สาเหตุเพราะลงสมัคร ส.ส. แต่สอบตกได้คะแนนแค่หลักร้อยหลักพัน กลับขี้โม้ประกาศศักดาว่าจะไปเอาเงิน 10-20 ล้านจากรัฐมนตารีมาสร้างวิทยาลัยให้เสร็จ น่าสมเพชอีกแล้ว รัฐมนตรีเขาคงจะให้อยู่หรอกนะ)

11.ทุกข้อที่เล่ามานี้ คือ เรื่องจริง ที่เกิดขึ้นกับวิทยาลัยเทคโนโลยีพัฒนบัณฑิตแห่งนี้

สามารถตรวจสอบได้เลยว่า เป็นความจริงหรือไม่

ตรวจสอบได้ง่ายๆได้ด้วยการ ลองแวะผ่านไปดูก็ได้ในแต่ละวัน จะช่วงเวลาไหนก็ได้

นักเรียนไม่มี มีก็แค่วันละ 3-5 คน ครู ณ.ตอนนี้ ก็เหลือแค่ 4-5 คน

แต่มีการเบิกเงินอุดหนุนเงินเดือนครูสิบกว่าคน

คนที่ลาออกไปแล้วก็ไม่ยอมเอาชื่อออก โดยเฉพาะครูช่างยนต์ที่มีใบประกอบวิชาชีพ

ซึ่งออกตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2557

ส่วนครูประจำชั้น ครูผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ชื่อ "ครูอ้อม" ก็มีการเอาชื่อมาเบิกเพื่อกินเงินอุดหนุนมาตั้งนาน

แต่ครูคนนี้ไม่เคยมาสอนเลย

12.เงินเดือนของครู จ่ายให้คนละ 7,000 บาท (แต่หักเดือนละ 100 บาท)

แต่ ทางวิทยาลัยเทคโนโลยีพัฒนบัณฑิต กลับมีการเบิกจากทางเขตฯ คนละ 15,000 บาท

13.เงินเดือนครู ไม่ได้มีการโอนเข้าบัญชี แต่ จ่ายเป็นเงินสด 14.ประกันสังคม ก็ไม่มี (ทางวิทยาลัยไม่ทำให้) สรุป เพื่ออยากให้มีการตรวจสอบ 1.วิทยาลัยเทคโนโลยีพัฒนบัณฑิต แห่งนี้ มีแต่ "บัญชีนักเรียนผี" 2.วิทยาลัยเทคโนโลยีพัฒนบัณฑิต แห่งนี้ ได้เบิกเงินที่ทางเขตฯ 3 โอนเกิน แต่ไม่มีการนำเงินก้อนนั้นไปใช้คืน แต่ ทางเขตฯ 3 ทำการอายัดบัญชีวิทยาลัยจนได้ครบเท่าจำนวนที่ทางวิทยาลัยเบิกไป

สรุปได้ว่า ทางวิทยาลัยได้เงินก้อนนั้นไปใช้ฟรีๆ

เปรียบเสมือนว่า ทางเขตฯ 3 "เอาเงินหลวง มาใช้หนี้เงินหลวง" 3.อาคาร ไม่ได้มาตรฐาน 4.ห้องเรียน ไม่ได้ขนาดมาตรฐาน 5.มีการเอาชื่อของครูที่ลาออกไปแล้ว (ครูช่างยนต์ "ครูทิวา (ขอสงวนนามสกุล)" มาใช้เบิกเงินอุดหนุน

เพราะ ครูคนนี้มีใบประกอบวิชาชีพด้วย

และทางวิทยาลัยก็ขอเปิดสอนแผนกช่างยนต์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา

แต่เมื่อครูคนนี้ลาออกเมื่อเดือนสิงหาคม 2557 กลับไม่มีการเอาชื่อครูคนนี้ออก

และมีการนำชื่อครูคนนี้ไปเบิกเงินอุดหนุนทุกเดือนจนถึงปัจจุบัน)

การกระทำอย่างนี้ หมายความว่าอย่างไร

ทางเขตฯ 3 อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ รู้เห็นเป็นใจหรือไม่

ถ้าไม่ ทำไม? ไม่มีการดำเนินการใดๆกับทางวิทยาลัยแห่งนี้

6."ครูอ้อม" ครูผู้หญิงอีกคน ที่ทางวิทยาลัยแห่งนี้ นำชื่อมา เพื่อทำการเบิกเงินอุดหนุน

เพราะครูคนนี้มีใบประกอบวิชาชีพ แต่ ครูคนนี้ไม่เคยมาสอนเลยแม้แต่วันเดียว 7.การขายวุฒิการศึกษา

นักเรียน นักศึกษา ที่มาเรียนในแต่ละวัน มีแค่ 3-5 คน

จะมีการเกณฑ์นักเรียน นักศึกษา ก็ต่อเมื่อ ทางเขตฯ 3 จะมาทำการประเมินและเช็คยอดนักเรียน นักศึกษา ซึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา ทางเขตฯ 3 ได้มาประเมินและมีการนับรายหัว นับได้เต็มที่แค่ 30 คน แต่ทั้งหลายทั้งปวง ไม่มีการมาเรียนเลย สรุปว่า ทางวิทยาลัยแห่งนี้ เจตนาที่จะขายวุฒิการศึกษา ใช่หรือไม่

เพราะไม่ว่าจะนักเรียนนักศึกษาในระดับ ปวช. และ ระดับ ปวส.

ไม่มีการมาเรียนเลยแม้แต่คนเดียว แต่มีการแจ้งยอดไปทางเขตฯ 3 ว่ามีนักเรียน ร่วม 90 คน

วัน-เวลา ราชการ สามารถแวะผ่านไปตรวจสอบได้ว่าจริงหรือไม่ มีมาเรียนจริงๆวันละไม่เกิน 3 คน ขนาด "วิทยานิพนธ์" ยัง copy มาพิมพ์ใหม่ขายเล่มละ 15,000 บาท

(ตรวจสอบได้ด้วยโปรแกรมที่มีใช้ในการตรวจสอบวิทยานิพนธ์ เช่น โปรแกรมอักขราวิสุทธิ์)

นับประสาอะไรกับวุฒิการศึกษาระดับ ปวช. และ วุฒิการศึกษาระดับ ปวส.

8.เอกสารทางการเงิน เอกสารการเบิกจ่าย เอกสารของนักเรียน นักศึกษา เอกสารทุกอย่างของวิทยาลัยแห่งนี้

ไม่มีการทำไว้ให้เป็นกิจจะลักษณะเลย หากทางเขตฯ 3 ไม่ออกมาตรวจสอบ ทางวิทยาลัยก็จะไม่มีการ "เมก" ขึ้นมา เรื่องทั้งหมดที่กล่าวมานี้ "เป็นความจริง" ทั้งหมด ไม่มีการแต่งเติมเสริมแต่งใดๆทั้งสิ้น สามารถตรวจสอบได้หมดทุกเรื่อง (และคิดว่าทางเจ้าหน้าที่ทางเขตฯ 3 ก็คงจะรู้สึกอึดอัดใจอยู่เหมือนกัน ที่มีวิทยาลัยหรือโรงเรียนแบบนี้อยู่ภายใต้การดูแลและความรับผิดชอบ) และเรื่องทั้งหมดนี้ได้มีการส่งเรื่องร้องเรียนไปทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สพฐ.เขต 3 , สช. ศูนย์ดำรงธรรม, สตง. , ฯลฯ เพราะ การขายวุฒิการศึกษา ถือเป็นอาชญากรทางการศึกษาที่ชั่วร้ายและร้ายแรงอย่างมาก ได้แต่หวังว่าผู้ที่มีอำนาจจะรีบดำเนินการ เพื่อตัดพวกเหลือบไรให้สิ้นไปจากวงการการศึกษาของประเทศไทย สามารถตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ด้วยการ แวะเข้าไปดูในวันและเวลาราชการได้เลยว่า วิทยาลัยแห่งนี้ มีนักเรียนมาเรียนวันละกี่คน ครู ณ.ปัจจุบัน มีแค่ 4-5 คน แต่ ไม่มีครูช่างยนต์มาสอน แต่ กลับมีการเบิกเงินอุดหนุนและเงินเดือนครู จากส่วนนี้ทุกเดือน ตรวจสอบได้จาก เขตฯ 3 อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ‹ ขอบเขตของงาน(Terms of Reference : TOR) ประกาศร่างขอบเขตของงาน (Terms of Reference : TOR)ก่อสร้างอาคารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา แบบที่ 4 สพม.40 ›

พุธ, 26 พฤศจิกายน 2557

ขอบคุณแหล่งข้อมูล: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

คำสำคัญ: , เลย, สพฐ., ม.สยาม, ค่าเทอม, ความรู้, ท้องถิ่น, รัฐมนตรี, อุดรธานี, กาฬสินธุ์, มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยสยาม