Sunday, October 19, 2014

"ระบำศรีวิชัย"ท่าออกกำลังกายบริหารสมอง

คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีนำท่าระบำศรีวิชัยมาประยุกต์เป็นท่าออกกำลังกายบริหารสมอง บรรจุเข้าตำราเรียนนักศึกษาพยาบาล

19ต.ค.2557 ผศ.ดร.ประโยชน์ คุปต์กาญจนากุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) เปิดเผย “ผู้สื่อข่าว” ว่า ขณะนี้คณะพยาบาลศาสตร์ มรส. ได้จัดโครงการการป้องกันภาวะสมองเสื่อมสำหรับผู้สูงอายุขึ้น โดยนำเอาท่ารำของระบำศรีวิชัยมาประยุกต์เป็นท่าออกกำลังกายเพื่อบริหารสมองให้กับผู้สูงอายุ เนื่องจาก ปัจจุบันมีแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ว่าจะเกิดภาวะสมองเสื่อมในประชากรผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปี โดยคิดเป็นร้อยละ 12.2 และคาดว่าอีก 20 ปีข้างหน้าจะมีอัตราสูงขึ้นเป็นร้อยละ 25 จึงต้องมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมเพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย สมอง การเงิน และสังคม ดังนั้นจึงต้องเร่งสร้างองค์ความรู้รองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอีก 2 ทศวรรษหน้า ส่วนทางด้านนางมาลี ล้วนแก้ว คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มรส. กล่าวว่า โรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุเกิดจากความผิดปกติในการทำงานของสมอง ส่งผลให้ระบบความจำและการใช้ความคิดด้านต่าง ๆ ของผู้ป่วยเสื่อมลง สูญเสียความสามารถในการแก้ไขปัญหาหรือการควบคุมตนเอง ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพและพฤติกรรม กระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังพบว่าแนวโน้มการเกิดภาวะสมองเสื่อมจะเพิ่มขึ้นตามอายุ ซึ่งอัลไซเมอร์เป็นภาวะสมองเสื่อมประเภทหนึ่งที่พบได้บ่อยที่สุด "ท่ารำระบำศรีวิชัยประดิษฐ์ขึ้นจากภาพจำหลักและภาพปูนปั้นสมัยศรีวิชัย ประสมกับท่ารำชวาและบาหลี สอดแทรกลีลาทางนาฏศิลป์ ลักษณะรำบางท่าคล้ายท่ารำของชวาและบาหลี เป็นการออกกำลังกายโดยเน้นให้เกิดการกระตุ้นให้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ การได้ยินเสียงด้วยหู การได้มองเห็นด้วยตา การรับกลิ่นด้วยจมูก การลิ้มรสด้วยลิ้น การสัมผัสด้วยผิวหนัง และการสัมผัสอารมณ์ด้วยจิตใจ ดังนั้นจึงเป็นการฝึกให้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้ทำงานเชื่อมโยงกัน เมื่อฝึกออกกำลังสมองบ่อย ๆ สมองจะมีการหลั่งสารนิวโรโทรฟินส์ ซึ่งเปรียบเสมือนอาหารสมองที่ทำให้เซลล์ที่ทำหน้าที่เชื่อมเซลล์ประสาททำงานดีขึ้น จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้เนื้อเซลล์เจริญเติบโตและเซลล์สมองแข็งแรง สมองซีกซ้ายและซีกขวาทำงานร่วมกันได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ ทำให้อารมณ์ดีและส่งเสริมทักษะการเข้าสังคม นำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น" นางมาลีกล่าวและว่า เบื้องต้นพบว่าผู้สูงอายุที่เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก คณะพยาบาลศาสตร์จึงได้นำโครงการดังกล่าวมาบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอนรายวิชา “การพยาบาลผู้สูงอายุ” หัวข้อ การป้องกันภาวะสมองเสื่อม และต่อยอดในการจดสิทธิบัตรทางปัญญาต่อไป ................................. (หมายเหตุ : ขอบคุณภาพจาก joylovenickhun.blogspot.com)

วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2557

ขอบคุณแหล่งข้อมูล: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

คำสำคัญ: , คมชัดลึก

No comments:

Post a Comment