สูญเสีย"ศ.จู๊บ แลงจ์"ผู้นำวิจัยเอดส์ อาฟเตอร์ช็อกทีมแพทย์ไทย : ทีมข่าวสาธารณสุขรายงาน
ดึกวันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม ต่อเนื่องถึงเช้าวันศุกร์ คือห้วงยามที่มวลมนุษย์แทบทุกมุมโลกต่างตกอยู่ในอาการ ช็อก! ด้วยโศกนาฏกรรมซ้ำซ้อนอันเกิดกับเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ เอ็มเอช 17 คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือมากมายถึง 298 คน
หากแต่ อาฟเตอร์ช็อก ที่เกิดตามมากลับส่งแรงสั่นสะท้านสะเทือนถึงคนไทยกลุ่มหนึ่ง ซึ่งแม้เป็นคนกลุ่มเล็กๆ แต่ภารกิจยิ่งใหญ่ ในนามทีมวิจัยเอดส์ อันประกอบด้วยแพทย์และพยาบาลแห่งสภากาชาดไทย
สายโทรศัพท์และออนไลน์เน็ตเวิร์กของกลุ่ม ที่นอกจากส่งข่าวร้ายถึงกันอย่างรวดเร็วในเช้าวันนั้นแล้ว ยังถูกใช้เพื่อปลอบโยนกันและกันให้ผันผ่านห้วงยามแห่งความเศร้าเสียใจและขวัญหาย ด้วยเหตุที่หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมนั้น คือบุคคลสำคัญที่พวกเขาผูกพันมาอย่างยาวนาน
ศ.จู๊บ แลงจ์ นักวิชาการด้านเอดส์ผู้มีชื่อเสียงระดับโลก เดินทางมากับเที่ยวบินมรณะ เอ็มเอช 17 โดยมีเป้าหมายไปประชุมเอดส์นานาชาติครั้งที่ 20 ที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เขาคือหนึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด และก็คือหนึ่งในจำนวนนักวิจัยต่างชาติ ที่แพทย์ พยาบาล สภากาชาดไทย ให้ความเคารพนับถือ
ชื่อของ ศ.จู๊บ แลงจ์ คงจะถูกขานผ่านเลยไปเหมือนกับอีกหลายชีวิตในบัญชีรายชื่อเหยื่อเที่ยวบินมรณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนไทย ที่นอกจากจะเอาใจช่วยทุกๆ ชีวิตบนเครื่องบินลำนั้นแล้ว พวกเขายังภาวนาอยู่ลึกๆ ขออย่าให้ให้มีชื่อเพื่อนร่วมชาติปรากฏอยู่ในนั้น ถ้าหากว่า คุณูปการของ ศ.จู๊บ แลงจ์ ที่มีต่อวงการวิจัยเอดส์ในไทย จะมลายหายสิ้นไปพร้อมลมหายใจสุดท้าย
แต่ในทางกลับกัน ชื่อของเขาถูกส่งผ่านเครือข่ายโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็วในแวดวงนักวิจัยเอดส์ชาวไทยในเช้าวันรุ่งขึ้น ให้หลังเหตุการณ์ผ่านพ้นเพียงประมาณ 12 ชั่วโมง
สำหรับประเทศไทย ศ.จู๊บ แลงจ์ นับว่าเป็นผู้หนึ่งที่มีคุณูปการอย่างสูง โดยเฉพาะในด้านการวิจัยเอชไอวี/เอดส์ มีความสัมพันธ์สนิทชิดเชื้อกับ ศ.กิตติคุณ นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เนื่องจากได้ร่วมกันก่อตั้ง ศูนย์ประสานความร่วมมือระหว่างไทย ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ เพื่อการศึกษาวิจัยทางคลินิกด้านโรคเอดส์ ภายใต้ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย หรือ ฮีฟ-แนท (The HIV Netherlands Australia Thailand Research Collaboration : HIV-NAT) กับอีกหนึ่งนักวิชาการชาวออสเตรเลีย ศ.เดวิด คูเปอร์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 และปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการร่วมของศูนย์นี้
ศ.กิตติคุณ นพ.ประพันธ์ พร้อมคณะแพทย์ และพยาบาลจากประเทศไทย มีนัดพบกับ ศ.จู๊บ แลงจ์ ณ จุดหมายปลายทางที่นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ในเวทีประชุมเอดส์นานาชาติครั้งที่ 20 ซึ่งก็คือเวทีที่พวกเขาจะได้มาแลกเปลี่ยนความก้าวหน้าทางวิชาการและงานวิจัยเปลื้องปลดชะตากรรมแก่มวลมนุษย์
คณะของ นพ.ประพันธ์ ไปรออยู่ก่อนแล้ว หากแต่ ศ.จู๊บ แลงจ์ ไม่มีโอกาสได้นำองค์ความรู้ของเขามาแลกเปลี่ยนกับทีมนักวิจัยเอดส์จากประเทศไทยไปตลอดกาล
ศูนย์ฮีฟ-แนท ก่อตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนให้แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์และผู้สนใจ มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและรับรู้ข้อมูล สถานการณ์ หรือความก้าวหน้าใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคอยู่เสมอ ซึ่งได้จัดประชุมวิชาการประจำปีนานาชาติด้านโรคเอดส์ (Bangkok International Symposium on HIV Medicine) ที่ใหญ่ที่สุดในแถบเอเชีย ในเดือนมกราคมของทุกปี และจัดอบรมเชิงลึก (Bangkok Symposium Series) เพื่อเจาะลึกในเรื่องการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีให้แก่แพทย์ พยาบาล เภสัชกรและบุคลากรทางการแพทย์ในประเทศไทยที่ทำงานด้านการดูแลรักษาโรคเอดส์และโรคติดเชื้อฉวยโอกาส มีเป้าหมายให้ผู้เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการสามารถประเมินการรักษา วินิจฉัยให้สูตรยาที่เหมาะสมและให้การดูแลอย่างถูกต้องแก่ผู้ติดเชื้อเอชไอวี
ในปี 2556 ศูนย์ฮีฟ-แนท ดำเนินการศึกษาวิจัยทั้งหมด 82 เรื่อง ดำเนินการในผู้ใหญ่ 46 เรื่อง และในเด็ก/วัยรุ่น 36 เรื่อง อาทิ เป็นการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับเภสัชจลนศาสตร์, การติดเชื้อร่วมกับเอชไอวี เช่น การศึกษาโรคตับอักเสบ การศึกษาไข้หวัดใหญ่ ไวรัสพาพิลโล และการศึกษาโรคซิฟิลิส เป็นต้น
พญ.วาสนา ประสิทธิ์สืบสาย กุมารแพทย์และแพทย์วิจัย ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย บอกว่า ศูนย์ฮีฟ-แนท มีงานวิจัยหลายชิ้นที่เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับประเทศเนเธอร์แลนด์ ผ่านทาง ศ.จู๊บ แลงจ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับยาต้านไวรัสเอดส์ที่เหมาะสมกับคนไทย นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่กำลังดำเนินการวิจัยอยู่อีกจำนวนมากที่ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ได้รับการสนับสนุนงบประมาณการวิจัยจากมหาวิทยาลัยที่ ศ.จู๊บ แลงจ์ ทำงานอยู่ ซึ่ง ศ.จู๊บ แลงจ์ มีส่วนสำคัญในการดำเนินการเพื่อให้ได้รับงบประมาณวิจัย นับว่า ศ.จู๊บ แลงจ์ มีส่วนสำคัญไม่น้อยต่อการวิจัยเรื่องโรคเอดส์ในประเทศไทย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น www.hivnat.org ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของศูนย์ฮีฟ-แนท ได้ขึ้นข้อความแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียในครั้งนี้ โดยระบุว่า เสียใจอย่างจริงใจที่ได้รับข่าวเพื่อนร่วมงานและเพื่อนที่อยู่บนเส้นทางไปเข้าร่วมประชุมเอดส์นานาชาติที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยสารมากับสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ที่ตกใกล้ยูเครน และน่าเศร้าในช่วงเวลานี้ที่ต้องสูญเสียผู้อำนวยการอันเป็นที่รักของพวกเรา คือ ศ.จู๊บ แลงจ์ ทั้งนี้ ศูนย์ฮีฟ-แนท ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของ ศ.จู๊บ แลงจ์ และนางแวน ตันกีน
โศกนาฏกรรมเที่ยวบินมรณะ เอ็มเอช 17 ไม่เพียงผลาญคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์มากมายถึง 298 คน หากแต่ต้องจดจารเอาไว้ด้วยว่า เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ เมื่อ ศ.จู๊บ แลงจ์ และอีกหลายชีวิตที่ร่วมอยู่ในชะตากรรมนั้น คือความหวังของผู้ป่วยโรคเอดส์ทั่วโลกนับล้านคน ..................................
(หมายเหตุ : 'ศ.จู๊บ แลงจ์'ผู้นำวิจัยเอดส์ อาฟเตอร์ช็อกทีมแพทย์ไทย : ทีมข่าวสาธารณสุขรายงาน)
วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม 2557
ขอบคุณแหล่งข้อมูล: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
คำสำคัญ: MH17, ไทย, ผู้นำ, วิจัย, เตอร์, แพทย์, คมชัดลึก, ข่าวทั่วไป, การศึกษาสาธารณสุขสิ่งแวดล้อม, ข่าวการศึกษาสาธารณสุขสิ่งแวดล้อม
No comments:
Post a Comment